Header Ads

New Coming Review

วันพุธที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Astell&Kern AK100 บทสรุปแห่งเสียงในแบบพกพา











สวัสดีครับในช่วงเร็วๆนี้ทางเราได้นำสินค้าเป็น Player พกพาในรูปแบบ Hi-End เข้ามาหลายๆรุ่นหนึ่งในนั้นก็คือเครื่องเล่นสุดฮิตในวงการเสียงครับ นั่นก็คือ Astell&Kern AK100 นั่นเอง โดยเจ้าตัว AK100 นี้ได้รับการพัฒนาโดยบริษัท iRiver ซึ่งโด่งดังในวงการเสียงมาเป็นเวลาช้านานแล้ว แต่ทีเด็ดของเจ้าตัวนี้ทำให้ AK100 ได้รับความนิยมจนขึ้นติดอันดับโลกได้ในเวลาไม่นานครับ จนตอนนี้ก็มี AK120 ได้รับการปล่อยสู่ตลาดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้ราคาจะค่อนข้างสูง แต่ก็ยังมีผู้ที่ชื่นชอบและนิยมในเสียงเพลงที่สมบูรณ์แบบเลือกให้เป็นเครื่องเล่นตัวโปรดไปมากมาย ซึ่งทางเราจะมารีวิวให้กันหลังจากนี้นะครับ ^^


สำหรับผู้ที่ชื่นชอบฟังเพลง และเน้นเรื่องคุณภาพเสียงเป็นพิเศษหากจะเลือก Player พกพาสักตัวที่เหมาะสมนั้น เป็นเรื่องยาก และหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญสำหรับการเลือกซื้อนั้นคือ ตัวเครื่องเล่นสามารถรองรับไฟล์ได้เหมาะสมกับการใช้งานและมากน้อยแค่ไหน เนื่องจากการรองรับไฟล์เพลงแบบ Lossless รวมไปถึง Hi-Res ได้นั้น มีน้อยรุ่นนักในตลาดที่จะสามารถให้เลือกซื้อกันได้ ซึ่งโดยส่วนมากจะเล่นได้เพียง Flac หรือ WAV แต่ทีเด็ดของ AK100 นั้นคือ มันรองรับ Hi-Res24/192 khz 


สำหรับไฟล์ Hi-Res 24/192 นั้นหลายๆท่านอาจจะยัง งง ๆ ว่าทำไมมันคือไร Lossless ที่เราฟังๆก็ถือว่ารายละเอียดสุดยอดแล้วนาาาา ทำไมต้องไปหาอะไรให้มันวุ่นวายมากขึ้นไปอีก ขอพูดสั้นๆแต่ได้ใจความว่า Hi-Res 24/192 นั้นคือไฟล์เสียงที่ใกล้เคียงกับต้นฉบับในการบันทึกมากที่สุด ซึ่งหลายๆเพลงโดยเฉพาะ Concert ทั้งหลาย หลายๆท่านก็มองหาความใกล้เคียงหรือเหมือนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ให้กับการฟังเพลงแบบ Portable ซึ่งตรงนี้ Astell&Kern AK100 ได้ตอบโจทย์ข้อนั้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว



โดยทาง Astell&Kern มีทีเด็ดสำหรับเจ้า AK100 โดยแปะสรรพคุณมาว่า MQS Portable System โดย MQS นั้นย่อมาจาก Mastering Quality Sound ความหมายของมันก็คือมันคือเครื่องเล่นพกพาระดับอ๋องที่สามารถเล่นไฟล์เพลง Hi-Res ได้โดยที่ไม่ต้องนั่งฟังจากแท่นอยู่ที่บ้าน อยู่บนรถเมล์ก็ฟังได้ อยู่บนเครื่องบินก็ฟังได้ อยู่บนเรือแสนแสบ ก็ยังฟังด้ายยยย .....


ลองมาดู Spec ของเครื่องกันบ้างนะครับ 

อันนี้ยกมาจากเว็บ Astell&Kern เลยนะครับ
General Specifications
  • Display
  • Supported Audio Formats
  • Sample rate
  • Output Level
  • DAC
  • Decoding
  • Charging Interface
  • Interface
  • Dimensions
  • Weight
  • Feature Enhancements
  • 2.4inch QVGA (320 x 240) IPS Touchscreen
  • WAV, AIFF, FLAC, ALAC, APE, MP3, AAC, WMA, OGG
  • WAV, AIFF, FLAC, ALAC : 8kHz ~ 192kHz (8/16/24-bits per sample)
  • 1.5Vrms (No Load)
  • Wolfson WM8740 24-bit DAC (High-End Audio DAC)
  • Supports up to 24-bit / 192kHz Bit to Bit Decoding
  • Micro USB Type-B
  • USB 2.0, OPTICAL IN/OUT, Headphone Out
  • 2.33 ”(59.2 mm) [W] x 3.11 ”(79 mm) [H] x 0.57 ”(14.4 mm) [D]
  • 4.3 oz (122 g)
  • Firmware upgrades supported
Audio Performance
  • Frequency Response
  • Signal to Noise Ratio
  • Crosstalk
  • THD+N
  • IMD SMPTE
  • Output Impedance
  • 10Hz to 20kHz +/-0.02dB (24bit 48kHz, No Load)
  • 110dB (1kHz 0dB, 24bit 48kHz, No Load)
  • -120dB (1kHz 0dB, 24bit 48kHz, No Load)
  • 0.0009% (1kHz 0dB, 24bit 48kHz, No Load)
  • 0.003% (24bit 48kHz, No Load)
  • 20 ohm
Clock source
  • Clock Jitter
  • 90ps
Battery
  • Capacity
  • Continuous Playback Time
  • Charge Time
  • 2,000mAh 3.7V Li-Polymer Battery
  • Up to 16 hours (Standard - MUSIC: FLAC, 16-bit, 44kHz, Volume 37, EQ Off, LCD Off)
  • About 5 hours
Memory
  • Built-in Memory
  • External Memory
  • 32GB [NAND]
  • microSD (Max 32GB) x2
OS
  • Supported OS
  • Windows XP, Windows Vista,7,8 (32/64bit), MAC OS X 10.6.5 and up




ซึ่งตรงจุดนี้เราก็จะเห็นได้ว่าตัวเครื่องนั้นสามารถรองรับไฟล์ Format ต่างๆที่เป็นที่นิยมและใช้กันบ่อยๆได้ครบถ้วน รวมไปถึงตัวเครืองนั้นได้ใส่ DAC (Digital to Analog Converter) ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และชิปที่ใช้นั้นก็จะเป็น Wollfson WM8740 ซึ่งหลายๆท่านในวงการเครื่องเสียงก็น่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี

นอกจากนี้ ในส่วนของการใช้งานต่อเนื่องของแบตเตอรี่ก็สามารถใช้ได้เต็มที่ โดยตามสเป๊กอ้างอิงไว้ที่ 16 ชั่วโมง ซึ่งหากเราๆฟังกันก็น่าจะเพียงพอต่อการใช้งานเลยทีเดียว ติดตรงที่หากชาร์จกลับเข้าไปค่อนข้างที่จะใช้เวลานานพอสมควร



ในส่วนของหน่วยความจำ ตัวเครื่องก็จะมีความจุภายในอยู่ที่ 32GB และสามารถเพิ่ม MicroSD ได้อีกที่ 32 GB เป็นจำนวนสองตัวด้วยกัน โดยถ้าจะให้พูดก็คือ หากใส่Memory Card เต็มอัตราก็สามารถเพิ่มความจุได้ถึง 96 GB ตรงนี้ก็เพื่อที่จะรองรับความอภิมหาโครตไฟล์ของ Hi-Res นั่นเอง




ส่วนทีเด็ดอีกจุดหนึ่งของ AK100 นั้นก็คือมันสามารถทำหน้าที่เป็น External DAC ได้ด้วย ซึ่งหากท่านใดที่ชื่นชอบการฟังเพลงผ่านคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อื่นๆก็สามารถนำ AK100 มาเป็นตัวกลางในการเพิ่มคุณภาพเสียงได้อีกด้วยครับ


สำหรับการทดสอบเราก็ได้มีโอกาสได้ทดลองกับลูกค้าที่มาซื้อหูฟังจากทางเราท่านหนึ่งและได้มีโอกาสนั่งพูดคุยกับทางเราที่ร้านแมคโดนัลสาขาเดอะไนน์นะครับ ยังไงก็ต้องขอขอบพระคุณคุณภวิวัฒน์มา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ

สำหรับเพลงที่ใช้ทดสอบที่มีอยู่ในเครื่องของคุณภวิวัฒน์นั้นก็จะมีเพลงบรรเลงเป็นไฟล์ต่างๆรวมไปถึงไฟล์ Hi-Res อัลบัมหนึ่งซึ่งก็คือ The Eagles-Hotel California ซึ่งเป็นอัลบัมที่รวมเพลงระดับจอร์จของ Eagles ไว้ครบถ้วน เราจึงขอหยิบมาลองทดสอบซะหน่อย

สำหรับความแตกต่างที่ได้จากไฟล์ Hi-Res ที่ฟังจากหูฟัง Living นั้นผมคิดว่ามันช่างเกินจะถ่ายทอดเป็นคำพูดจริงๆครับ......




อย่างแรกคือรายละเอียดมันถูกระเบิดออกมาอย่างเต็มที่สุดๆ ซึ่งตรงนี้หากได้ลองฟังกับเพลงที่ใช้ instruments เยอะๆ รายละเอียดมักจะถูกบดบังโดยเสียงต่างๆ ที่เน้นกว่า หากท่านเคยฟังเพลงที่ใช้ไฟล์ฟอแมทเป็น MP3 เทียบกับ Hi-Res แล้วท่านจะรู้ว่าความแตกต่างระหว่างสองตัวนี้มันมากขนาดที่ว่าคนธรรมดา สาวน้อยร้อยชั่งก็สามารถจับจุดได้เลยทีเดียวครับ

อย่างที่สองที่เห็นได้ชัดก็เห็นจะเป็นความขาดๆเกินๆของเพลงที่เคยได้ฟัง จากปกติที่เคยมีอาการเสียงกลางสูงเข้ามาบาดหูจนเลือดออก เจ้า Astell&Kern AK100 นั้นก็เหมือนจะทำหน้าที่ให้เติมเต็มความขาดนั้นลงไป ทำให้เพลงที่ฟังมีอาการบาดหูลดน้อยลง และได้เสียงที่หนาขึ้น เปิดขึ้น และอารมณ์ของเพลงถูกเติมเต็มได้อย่างดีเยี่ยมเลยครับ

ในเรื่องของความเที่ยงตรงของเสียงที่ได้รับการบันทึกมาแบบ Hi-Res นั้น ในไฟล์บรรเลงเพลงออเครสตร้า ซึ่งเป็นวงใหญ่อลังการ เสียงที่ออกมานั้นไหลลื่นเป็นธรรมชาติเอามากๆ เสียงเครื่องเคาะโลหะ และเสียงเชลโล่ก็มาเต็มๆ จัดออกมาซะน้ำตาแทบไหลไปกับเพลงเลยทีเดียวT^T



บทสรุป


ก็จบลงไปแล้วนะครับสำหรับการแนะนำ Portable Player ที่แม้ว่าจะออกมาได้สักระยะแล้ว แต่ทางเราก็เพิ่งจะได้นำเข้ามาจัดจำหน่ายครับ ^^ สำหรับท่านที่กำลังมองหาความลงตัวของทุกอย่าง และคุณภาพเสียงดั่งออกจากห้องอัดยังไงอย่างนั้นเจ้าตัวนี้ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าจับต้องไม่น้อยเลยครับ สำหรับการรีวิวในวันนี้ หากมีข้อผิดพลาดใดๆทาง TOPPIKHIFI ของเราก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ ในวันนี้ สวัสดีครับ^^







**ขอขอบพระคุณ คุณภวิวัฒน์ ผู้ให้ความกรุณาในการทดสอบและพูดคุยเพื่อเป็นส่วนหนึ่งใน Review Astell&Kern AK100 ด้วยครับ **




Astell&Kern AK100
ราคา 22,500 บาท







Contact:

TOPPIKHIFI HQ รามคำแหง160 (แยกมีสทีน)



Email:  info@toppikhifi.com
            sales@toppikhifi.com

Tel: 090-015-1634
        089-222-4832





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Adbox