**คลิกที่รูปเพื่อเข้าสู่เว็บร้าน Facebook Fanpage ,Tweeter และหน้าหลักของ Blog**
สำหรับรุ่นนี้นะครับ เสียงและ Character โดยรวมจะแตกต่างจากตัว TTPod T1 รุ่นแรกค่อนข้างชัดเจนครับ หลายๆคนสงสัยว่ามันต่างกันยังไง คือถ้าให้กล่าวคร่าวๆนั้น ตัว T1-E นั้นจะให้น้ำเสียงออกไปทางหนักแน่นกว่า เหมาะกับฟังเพลงแนว POP Rock มากกว่าครับ โดยแยกประเภทของเพลงที่เหมาะออกมา โดยตัว T1 จะเหมาะกับเพลงฟังสบายๆ ไม่เน้นเบสมากนัก แต่ตัว T1-E นั้นจะเหมาะกับเพลงที่ต้องการเบสมารัวจังหวะให้ความสนุกสนานกับเพลงมากขึ้นครับ^^
ขอเริ่มการ Unbox กันเลยนะครับ ตัวกล่องจะแตกต่างจาก TTpod T1 อยู่ครับ ตัวกล่องเล็กลงเป็นสีดำครับ |
สำหรับอุปกรณ์ที่แถมมาให้กูจะคล้ายๆกับ TTPod T1 ครับ โดยมีจุกยางขนาดต่างๆพร้อมถุงผ้าให้ครับ |
สำหรับตัวหูฟังที่เรานำมารีวิวในวันนี้จะเป็นสีใสครับ สียอดนิยมของรุ่นนี้เลยก็ว่าได้ 5555 โดยตัวบอร์ดี้ก็จะเป็นวัสดุตัวเดียวกับ TTPod T1 ครับเป็นพลาสติกน้ำหนักเบา ให้สัมผัสที่ค่อนข้างดี ดูแข็งแรงครับ ส่วนเรื่องงานประกอบถือว่าอยุ่ในเกณฑ์ A+ เลยทีเดียว มีการเก็บงานเรียบร้อยทั้งการเข้าหัวและภายในครับ
สำหรับตัวสายก็เป็นแบบเดียวกับ TTPod T1 ครับ เป็นสายชุบเงินเช่นกันนำสัญญาณได้ดี โดยใช้แกนสายทั้งหมด 18 เส้นถักพันเข้าด้วยกัน โดยสำหรับสีใสนั้นสายจะเป็นสายหุ้มฉนวนสีขาวครับ ต่างจากตัว TTPod T1 สีแดงที่จะใช้สีออกน้ำตาลเข้มๆ ที่จะมีเฉพาะสีดำในรุ่น T1-E เท่านั้น (สีอื่นจะเป็นสายสีขาวหมดครับ) โดยตัวสายมีความยาว 1.3เมตรครับ ก็ยาวเพียงพอกับการใช้งานทั่วไปแน่ๆล่ะครับ
ส่วน Jack 3.5mm ก็เป็นแบบเดียวกับ TTPod T1 ครับที่เป็นแบบตรงชุบทองและมีเว้าให้เหมาะกับการใช้งานกับ Smart Phone ที่ใส่เคสทั้งหลายครับ
(ต้องขออภัยที่ไม่ได้ถ่ายรูป Jack 3.5mm ด้วยครับ ลืม-*-)
สำหรับการใช้งานนั้น เราสามารถยัดเข้าไปตรงๆแล้วปล่อยให้สายลงมาแบบหูฟังทั่วไปก็ได้ หรือจะเอาสายคล้องหู เพื่อให้งานเวลาออกกำลัง หรือเดิน เพื่อที่หูฟังจะไม่เลื่อนหลุดก็ได้เช่นกันครับ โดยสายของมันจะออกแข็งนิดๆทำให้เราสามารถดัดให้เข้ากับใบหูได้ดีขึ้น
ตัว Driver ที่ทำหน้าที่ขับเสียงของ TTPod T1-E นั้นใช้แบบ Dual Dynamic โดยทาง TTPod เรียกเทคโนโลยีนี้ว่า Turbo Driver คือใช้ Driver N50 High-Magnetic ขนาด 6.2mm โดยให้ทำงานด้วยกันสองตัวเพื่อขับเสียงแต่ละย่านให้ออกมามีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งให้ความสามารถในการแยกแยะเสียงแต่ละย่าน รวมไปถึงรายละเอียดต่างๆ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งแรงขับช้างสารในการขับ เนื่องจากหูฟัง TTPod มีค่า Impedance เพียง 12ohms เท่านั้น สามารถเล่นกับมือถือ Smart Phone ทั่วๆไปได้สบายเลยครับ
นอกจากนี้ ทาง TTPod ได้ใช้เทคโนโลยี Bio-Polymer nano-Diaphragm มาใช้กับ Driver ที่ฝังอยู่ใน TTPod T1-E โดยนำเข้าจากเยอรมันเลยทีเดียว เพื่อที่จะทำให้หูฟังให้เสียงที่ใสสะอาดเป็นที่สุด สุโค่ยยย.....
ตัว Driver ที่ทำหน้าที่ขับเสียงของ TTPod T1-E นั้นใช้แบบ Dual Dynamic โดยทาง TTPod เรียกเทคโนโลยีนี้ว่า Turbo Driver คือใช้ Driver N50 High-Magnetic ขนาด 6.2mm โดยให้ทำงานด้วยกันสองตัวเพื่อขับเสียงแต่ละย่านให้ออกมามีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งให้ความสามารถในการแยกแยะเสียงแต่ละย่าน รวมไปถึงรายละเอียดต่างๆ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งแรงขับช้างสารในการขับ เนื่องจากหูฟัง TTPod มีค่า Impedance เพียง 12ohms เท่านั้น สามารถเล่นกับมือถือ Smart Phone ทั่วๆไปได้สบายเลยครับ
นอกจากนี้ ทาง TTPod ได้ใช้เทคโนโลยี Bio-Polymer nano-Diaphragm มาใช้กับ Driver ที่ฝังอยู่ใน TTPod T1-E โดยนำเข้าจากเยอรมันเลยทีเดียว เพื่อที่จะทำให้หูฟังให้เสียงที่ใสสะอาดเป็นที่สุด สุโค่ยยย.....
มาถึงการทดสอบทางด้านเสียงกันเลยนะครับ
อุปกรณ์ในวันนี้ผมเลือกใช้อุปกรณ์บ้านๆคือ
หูฟัง TTPod T1-E สีใสแจ๋ว
ไฟล์ที่ใช้ก็เป็นไฟล์ตั้งแต่ Flac, WAV, MP3 320 Kbps นะครับ
ตัวหูฟังผมเบิร์นมาได้ราวๆ 200 ชั่วโมงแล้วนะครับเผามายาวนานมั่กๆ และเช่นเคยโปรดใช้วิจารณญาณในการรับชมรีวิว TTPod T1-E นะครับ เนื่องจากการทดสอบให้ความรู้สึกส่วนตัวของผู้รีวิวเป็นหลักครับ
ด้านเสียงสูง - สำหรับ TTPod T1-E นั้นให้การตอบสนองที่ค่อนข้างดี ปลายไหลพอใช้ได้ครับ แต่ไม่เด่นเท่า TTPod T1 นัก ด้านความนิ่งของปลายนั้นก็ยังคงควบคุมไว้ได้ดีใช้ได้ ไม่มี Distortion ให้เห็น (แรกๆก่อนเบิร์นช่วงแกะกล่องใหม่ๆนั้นปลายเสียงสูงจะปรี๊ดๆยุ่งๆนะครับ แต่พ้นช่วงเบิร์นไปหายวับ) ตรงนี้การเบิร์นหูฟังให้ผลที่ค่อนข้างชัดเจนมากๆสำหรับหูฟัง TTPod T1-E ครับ เพราะความแตกต่างระหว่างก่อน-หลังเบิร์นมีให้เห็นอย่างชัดเจน
TTPod T1 -E นั้นปล่อยเสียงสูงออกมาในระดับกลางๆ ไม่สูงมากไม่หดมากอยู่ในระดับที่กลางๆ มีอาการปลายหลบบ้างบางครั้ง แต่น้อยครั้งครับ ด้านเสียงนักร้องที่เน้นเสียงสูงๆเวลามาฟังกับ TTPod T1-E แล้วก็ยังให้ฟิลลิ่งที่ค่อนข้างดีอยู่ การจัดเรียงเฟสถือว่าใช้ได้ แม้จะไม่ได้พุ่งทะยานแบบ TTPod T1 แต่ยังตอบสนองได้ดี ขาดเพียงความคม เนื่องจากปลายเสียงสูงยังดูหม่นๆเล็กน้อยครับ
เสียงกลาง - ทางด้านเสียงกลางของ TTPod T1-E นั้นถือว่าตอบโจทย์ผมได้เป็นอย่างดีครับ เนื่องจากเสียงกลางมีความสมดุลทั้ง กลาง-สูงและ กลาง-ต่ำ มีบาลานซ์ดีมากๆ โดยตัวเสียงกลางนั้นจะอยู่ในระดับที่ไม่เด่นไม่ถอยครับ จะอยู่ในระนาบเดียวกับเสียงดนตรีพื้นหลังและเวทีเสียง แต่ได้รับการแยกฉีกออกมาจากเครื่องดนตรีอย่างชัดเจน มากไปกว่านั้นเสียงกลางจะเป็นโทนนุ่มๆอุ่นหูดี ไม่กระโดกกระดาก ดูเป็นเสียงกลางที่เรียบร้อย ไม่สดหรือจัดจ้านนัก การคุมจังหวะอยู่ในโทนที่ดี สามารถสัมผัสเสียงร้องและเครื่องดนตรีได้เป็นอย่างดี การจับจุดโฟกัสทำได้ดี นักร้อง เครื่องดนตรี คนดู
เสียงต่ำ/เบส - ในด้านเสียงเบสนั้น TTPod T1-E นั้นได้รับการปลดปล่อยเบสที่เก็บงำไว้ออกมา เป็นเบสที่กระแทกได้ดี่เยี่ยม มี Impact และ Deep Bass ที่ดีมาก น้ำหนักและจังหวะการลงเบสทำได้ดี มีอาการทิ้งน้ำหนักเบสค้างไว้สักพักก่อนเก็บตัว ทางด้านหัวโน๊ตเบสนั้นมีตำแหน่งและจับจุดได้ดีครับ ค่อนข้างชัดเจน โดยเวลาเบสมานั้นจะนำมาด้วยหัวโน๊ตเบสก่อนที่จะทิ้งน้ำหนักเบสลงไป ซึ่งหลังจากทดลองกับพวก Epica, Nightwish นั้นมาเต็มเลยที่เลยสะใจขาร๊อคแน่นอน
รายละเอียดยุบยิบ - ด้านรายละเอียดนั้นยังคงทำได้ดีในสไตล์ TTPod ครับ จุดเล็กๆน้อยๆยังมีให้เห็นอย่างชัดเจน แม้จะดูยุ่งๆสักเล็กน้อยเนื่องจากบางทีมีการขึ้นมาซ้อนของรายละเอียดที่มากๆในบางเพลงเช่นแนวออเครสต้า แม้จะไม่เด่นเท่าตัว TTPod T1 นักครับ ด้านการแยกชิ้นดนตรีก็ยังทำได้ดี รวมไปถึงเสียงย่านต่างๆที่ถูกแยกออกจากกันอย่างเห็นได้ชัด เสียงเบสและเสียงกลางไม่มาทบกัน เสียงกระเส่า เสียงลมหายใจก็มีให้เห็นอยู่บ้างแม้จะไม่เด่นขัดมากนัก
มิติ/Soundstage - สำหรับ TTPod T1-E นั้นความกว้างอยู่ในเกณฑ์ปานกลางครับ แต่ก็ถือว่าทำได้ดีในหมวดหมู่ของหูฟังแบบ In Ear ครับซึ่งหลังจากเบิร์นแรกๆอาจจะดูเหมือนแคบและรู้สึกบีบๆ แต่พอหลังจากพ้นเบิร์นแล้ว Soundstage ก็เปิดกว้างมากขึ้น มีการจัดเรียงทั้งมิติและเวทีได้ดีขึ้น ไม่รู้สึกอุดอู้หรือ บีบรัดครับ
ด้านมิติและรูปเวทีนั้นเป็นแบบโอบล้อม ให้ความรู้สึกลอยออกจากหัวไปพอประมาณ แต่ไม่ถึงกับไกลนัก ตำแหน่งใกล้ไกลสามารถโฟกัสได้ชัดเจน เป็นรูปเป็นร่างใช้ได้ครับ
ด้านมิติและรูปเวทีนั้นเป็นแบบโอบล้อม ให้ความรู้สึกลอยออกจากหัวไปพอประมาณ แต่ไม่ถึงกับไกลนัก ตำแหน่งใกล้ไกลสามารถโฟกัสได้ชัดเจน เป็นรูปเป็นร่างใช้ได้ครับ
สรุป - ก็จบไปแล้วนะครับการรีวิวหูฟัง TTPod T1-E ซึ่งก็เป็นหูฟังที่น่าเล่นตัวนึงเลยทีเดียว หลายๆคนก็คงสงสัยว่ามันต่างจากตัว T1 ยังไง? ทำไมราคาเท่ากัน? แล้วอันไหนดีกว่า? ผมก็ขอสรุปเป็นข้อๆไปตามนี้เลยนะครับ
1. TTPod T1 นั้นจะเป็นหูฟังที่เหมาะกับฟังเพลงแนวสบายๆ ใสๆ เน้นเสียงนักร้อง ต้องการบรรยากาศแนว Audiophile ฟังแบบเรื่อยๆชิวๆ ครับ แต่สำหรับ T1-E นั้นจะเป็นแนวสนุกๆ ให้เบสมาเป็นจังหวะ แต่ว่าความใสที่เคยมีใน T1 นั้น ตัว TTPod T1-E ยังเป็นรองอยู่หลายขุมครับ
2.วัสดุทั้งสองตัวเหมือนกันครับ ต่างกันเพียง Character เสียงครับผม
3.ถามว่า E = Enhanced = T1-E ดีกว่า T1?
ตอบ... ไม่มีตัวไหนดีกว่ากันครับ ทั้งสองตัวเป็นเหมือนพี่น้องที่คนนึงหล่ออีกคนนึงสวย ทั้งสองตัวมีจุด เด่นที่ต่างกัน เหมาะกับเพลงต่างแนวกันครับ
4. ใครเหมาะกับใคร?
ถ้าคุณชอบฟังเพลงสบายๆ เลือก TTPod T1ครับ เหมาะกับฟังแนวใสๆ สบายๆ ให้เสียงนักร้องและบรรยากาศที่ดี
ถ้าคุณชอบฟังแนว Rock ,Pop ชอบเสียงเบส ฟังเพลงแนวสนุกๆ เลือก TTPOd T1-E ครับ!!
ถ้าคุณชอบฟังเพลงสบายๆ เลือก TTPod T1ครับ เหมาะกับฟังแนวใสๆ สบายๆ ให้เสียงนักร้องและบรรยากาศที่ดี
ถ้าคุณชอบฟังแนว Rock ,Pop ชอบเสียงเบส ฟังเพลงแนวสนุกๆ เลือก TTPOd T1-E ครับ!!
ทาง TOPPIKHIFI ของเราก็ขอจบการ Review TTPod T1-E ไว้เพียงเท่านี้ก่อนนะครับ ก็หวังว่าจะติดตามกันนะคร้าบบบ ในวันนี้ทางเราขอลาไปก่อน ช่วงนี้ฝนตกหนักก็ระมัดระวังสุขภาพกันด้วยนะครับ สวัสดีครับ _/\_
Website: www.toppikhifi.com
Email: info@toppikhifi.com
toppikhifi@hotmail.com
Tel: 089-222-4832 (AIS)
090-015-1634 (DTAC)
090-015-1634 (DTAC)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น