Header Ads

New Coming Review

วันเสาร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2558

Review การใช้งาน Fiio X5 2nd Gen











**คลิกที่รูปเพื่อเข้าสู่เว็บร้าน Facebook Fanpage ,Tweeter และหน้าหลักของ Blog**

สวัสดีครับ ผ่านพ้นช่วงกลางปีไปหลายๆบริษัทผู้ผลิตสินค้าต่างก็เข็นสินค้ารุ่นใหม่ๆออกมาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้านะครับ ซึ่งก็เช่นเดียวกับ Fiio บริษัทยักษ์ใหญ่เจ้าพ่อวงการ Portable Amplifier และ Audio Player ที่ทุกคนน่าจะคุ้นหูกันอยู่ไม่น้อยเลยนะครับ โดยจากที่ผ่านมาสินค้าของ Fiio ได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก กับ Fiio X ซีรี่ส์ที่หลายๆคนก็ได้จับจองมาเป็นเจ้าของกันคนละชิ้นสองชิ้นกันไปแล้วครับ

สำหรับในวันนี้ทางเราก็ได้นำ Fiio X5II หรือ Fiio X5 2nd gen ที่ได้ออกมาแทนรุ่น X5 ที่ได้เขย่าวงการกันไปเมื่อปีกลายจนพลิกวงการ Portable Audio Player จนเป็นที่เลื่องลือกัน โดยในรุ่นนี้ได้รับการปรับปรุงส่วนต่างๆ จะเป็นอย่างไรวันนี้ TOPPIKHIFI ของเราขอพาทุกท่านไปชมกันนะครับ

เริ่มกันที่ Package กันก่อนนะครับ ก็ตามสไตล์ Fiio นะครับเป็นโทนดำแดง 




อุปกรณ์จัดหนักเช่นเดิมครับ



1.ซิลิโคนเคสสำหรับใส่ตัว X5II
2.กันรอยหน้าจอสองแผ่น (ที่ตัวเครื่องติดมาจากโรงงานแล้วอีก 1 รวมเป็น 3)
3.Sticker สำหรับตกแต่งและป้องกันตัวเครื่องสามชุด (ลายไม้,ลายธงอเมริกาและลายคาบอนไฟเบอร์)
4.Coaxial Cable สำหรับต่อ Line Out
5.USB Cable
6.คู่มือและเอกสารรับประกัน


มาดูที่ตัวเครื่องกันบ้างนะครับ




สำหรับหน้าตาก็ต่างจากรุ่นเดิมพอสมควร บางคนก็บอกดูเนียนตาขึ้น บางคนก็บอกรุ่นแรกดูโหดกว่าอันนี้ก็นานาจิตตังนะครับ แต่ส่วนตัวผมว่ามันก็เรียบง่ายและใช้งานสะดวกดีครับ น้ำหนักก็เบากว่ารุ่นเดิมอย่างเห็นได้ชัดเจนเลย

ด้านหลัง







มาถึงในส่วนของคำถามที่หลายๆคนน่าต้องการทราบเกี่ยวกับ Fiio X5II นี้นะครับว่า
 "มันต่างกับรุ่นแรกยังไงล่ะ?"

น้ำหนักและขนาด - สำหรับรุ่นที่สองนี้ได้รับการปรับแต่งและเปลี่ยนดีไซน์หลายๆจุดทำให้มีน้ำหนักที่เบาและขนาดที่เล็กและบางกว่ารุ่นแรกครับ โดยขนาดเล็กลงที่ 12% ส่วนน้ำหนักเบากว่าเดิมที่ 15% ครับ (อ้างอิงจาก Fiio)

บ้าพลังกว่าเดิม - ทาง Fiio ได้เคลมไว้ว่าเจ้า Fiio X5 2nd Gen ตัวนี้ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพการให้พลังงานมากกว่ารุ่นแรกถึง 40% จากไฟ 14V ของ Power Supply

ชิ้นส่วนและวงจรภายในระดับอ๋องตัวใหม่สุดล่า - ด้วยการจับเอาชิปเสียงต่างๆเน้นที่มีประสิทธิภาพสูงมาใส่ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ DAC Decoding, Current Amplification, Voltage Amplification และอื่นๆ โดยชิปเสียงส่วนใหญ่ใช้จากบริษัท TI หรือ Texas Instruments ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปและวงจรไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ผู้คร่ำหวอดและมีประสบการณ์ในการผลิตวงจรและชิปมากว่า 85 ปี

Native DSD - สำหรับตัวนี้ได้รับการยกเครื่องเพื่อให้รองรับการถอดรหัส DSD File แบบ Hardware Decoding ไม่ต้องผ่านโปรแกรมด้วยตัวมันเองเรียบร้อยเฉกเช่นเดียวกับ Fiio X3II ที่ออกมาก่อนหน้านี้ครับ

Independent Amplifier Stage - อันนี้ก็ได้รับการยกเครื่องใหม่เช่นกันครับ กับภาคขยายของเจ้า Fiio X5 II นั้นก็ได้รับการแยกออกมาต่างหากเพื่อขับที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งไปกว่าเดิม

Digital Audio แบบใหม่ - ทาง Fiio ก็ได้ภาคภูมิใจกับ Dual Crystal Oscillators เป็นอย่างมาก โดยแต่ละตัวนั้นก็ไว้ใช้แยกกันรับมือกับไฟล์แบบ 44.1kHz (44.1/88.2/176.4kHz, DSD64/128) และ 48kHz (48/96/192kHz) โดยเฉพาะเพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

เปิดไวโพดดด - สำหรับเจ้า Fiio X5II ตัวนี้ก็ได้รับการปรับปรุงโดยใช้เทคโนโลยีแบบโทรศัพท์ Smartphone ที่เป็นที่นิยมมายัดไว้ในนี้ โดยเปิดจากโหมด Standby ใน 0 วินาที และกินแบตขณะอยู่ในโหมด Standby น้อยลงเพื่อการใช้งานที่ยาวนานยิ่งขึ้น

Credit: ข้อมูลอ้างอิงการเปรียบเทียบรุ่นแรกและรุ่นที่สองจาก Fiio.net


มาถึงเรื่องการใช้งานกันบ้างนะครับ


UI (User Interface) - สำหรับ Fiio X5II ก็ได้รับการปรับปรุง UI ให้ใช้งานได้สะดวกและแม่นยำมากขึ้นครับ โดยในรุ่นแรกนั้นจะเป็นแบบแนวตั้งซึ่งบางครั้งก็พางงสำหรับผู้ที่ใช้งานใหม่ๆ แต่พอรุ่นนี้ก็เปลี่ยนเป็นแบบแนวนอนซึ่งก็ทำให้สอดคล้องกับ Wheele ที่ใช้หมุนๆเพื่อควบคุมยิ่งขึ้นครับ



การจัดเรียงหน้าเมนูก็ถือว่าทำได้ดีและมีระเบียบครับ แต่ละส่วนถูกจัดให้เข้าถึงได้อย่างง่ายดายไม่ต้องไปคลำหากันให้เสียเวลา

หน้าจอ - สำหรับการใช้งานในภาวะแสงน้อยและแสงเยอะ หน้าจอขนาด 2.4นิ้วของ Fiio X5II นั้นก็สามารถทำหน้าที่ได้ดีและคมชัดมากๆครับ ไม่ว่าจะเอียงมุมไหนก็สามารถให้รายละเอียดของเนื้อหาและสีสันได้ดี ตรงจุดนี้ต้องขอบคุณหน้าจอแบบ IPS

ปุ่มและการควบคุมตัวเครื่อง - สำหรับรุ่นนี้ปุ่มจะแบนๆ แต่หลักๆที่ใช้ก็คือหมุนๆตัว Wheel เพื่อเข้าสู่เมนูนี่นั่น การทำงานตอบสนองได้ดี และการกดปุ่มแต่ละปุ่มก็ไม่มีปัญหารวนเรหรือเลยแต่อย่างใดครับ สำหรับ Fiio X5II ตัวนี้ FW (Firmware) ถือว่าทำออกมาได้นิ่งเลยทีเดียวครับ

ตัวเครื่อง/น้ำหนัก/การพกพา - สำหรับตัวเครื่อง Fiio X5II นั้นก็ได้รับการปรับปรุงให้มีน้ำหนักที่เบาและขนาดที่เล็กลง จึงทำให้การพกพานั้นสะดวกยิ่งขึ้นครับ แม้ว่าจะใส่เคสซิลิโคนก็ยังให้สัมผัสและขนาดที่เล็กอยู่ดีในการจับถือหรือใส่กระเป๋ากางเกง ดูไม่เตะตาดีครับ ด้านวัสดุที่ใช้นั้นก็ดูแข็งแรงและทนทานไปในทิศทางเดียวกับรูปลักษณ์ที่สวยงาม แต่เสียตรงที่การใช้งานนั้นมักจะมีความร้อนสะสม ซึ่งแม้ว่าจะใส่เคสซิลิโคนอยู่ก็มีความร้อนแผ่ออกมาให้รู้สึกได้ยามที่ถือไว้หรือใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงครับ

มาถึงเรื่องเสียงกันเลย

สำหรับการทดสอบในวันนี้นั้นผมก็จะจับเอา Fiio X5II มาแสดงอิทธิฤทธิ์ในการฟังเพลงล้วนๆก่อนนะครับ จะเป็นการต่อตรงกับหูฟังแต่ละรุ่นดังนี้

Audio-Technica M50x
Audio-Technica MSR7
Earsonics SM64
InEar StageDiver 2,4

ประเดิมกันกับหูฟังขนาดใหญ่ที่ ATH M50x กันก่อนเลยครับ ความรู้สึกแรกที่ได้สัมผัสนั้นจะรู้ได้ทันทีถึงจังหวะที่รุกเร้าเข้าหาผู้ฟัง โดยในเพลงที่มีดนตรีและทำนองที่สนุกสนานนั้น Fiio X5II จะให้เบสและเสียงกลางที่กระแทกและรัว มีน้ำหนักของมวลเบสที่ลึกลงไปถึง Deep Bass การลงกระเดื่องมีรายละเอียดที่ชัด ให้ความรู้สึกถึงสัมผัสที่หนังกลองได้เป็นอย่างดี

เมื่อลองจับ ATH MSR7 มาเทสกับเค้าบ้างก็ได้เจอทีเด็ดอีกจุดนึงครับ นั้นก็คือ Soundstage และ Background !!



ตัวหูฟัง ATH MSR7 นั้นแรกเริ่มเดิมทีก็ให้ Stage ที่กว้างและมีมิติที่ชัดเจนอยู่แล้ว แต่พอจับคู่กับ Fiio X5II นั้นก็ได้รับอิมเมจโฟกัสที่ง่ายต่อการจับจุดขึ้นไปอีก เสียงต่างๆลอยและมาจากทุกทาง โดยยิ่งเล่นกับเพลงที่มีรายละเอียดเสียงที่ครบครันและมีเครื่องดนตรีหลายประเภทก็ยิ่งทำให้ฟังสบายและพริ้มสุดๆ ในส่วนของ Background นั้นก็ได้รับความสงัดและสะอาดมากๆ ไร้เสียงรบกวนและเสียงส่วนเกินที่เข้ามาวุ่นวาย

เปลี่ยนมาลองหูฟังแบบ In-Ear monitor กันบ้างครับเริ่มที่ Earsonics SM64 ที่เป็นหูฟังแบบ 3 drivers

มิติการจับวางและโยนเสียงแต่ละย่านนั้นให้ความรู้สึกเรียบเนียนและมีพลังมากๆครับ ช่องไฟแต่ละเสียงนั้นดูแคบลงจากจังหวะการเปลี่ยนสลับซ้ายขวาของเสียงแต่ละจุด การจับวางตำแหน่งเครื่องดนตรีต่างๆดูชัดเจนและแยกได้หมดจด ให้เสียงที่นิ่งและไม่กัดหูหรือฟ้อง Noise ต่างๆออกมาแต่เช่นเดียวกับหูฟังขนาดใหญ่ Fiio X5II ยังให้พื้นหลังของเสียงที่นิ่งและสงัดมากๆ

สำหรับเพลงแนวหวานๆจากเสียงร้องของสาวๆเสียงใสทั้งหลายนั้นก็ให้ดุลเสียงที่ชัดเจนและคมไปถึงรายละเอียดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเสียงลมหายใจที่ลอดไรฟันออกมา โดยมีจังหวะขึ้นลงของโน๊ตเสียงที่เนียนและไม่รู้สึกว่ากระโดดหรือขาดความธรรมชาติเลยแม้แต่น้อย น้ำหนักการลงของเบสก็ยังเป็นที่น่าพอใจทุกครั้งที่ได้ฟัง เป็นเบสที่ไม่บวมหรือขาดน้ำหนักของ Deep Bass เลย

มาถึงหูฟัง InEar StageDiver กันบ้างนะครับ

ความประทับใจของการลองกับหูฟังสองตัวนี้อยู่ที่ "รายละเอียด" ไม่มีมีหลบซ่อนอยู่เลยแม้แต่น้อยเมื่อได้เทสประกบกับ Fiio X5II โดยรายละเอียดต่างๆถูกดึงออกมาหมดเส้นสายและขอบคมชัดสุดๆ มีเสียงกลางสูงที่ได้อารมณ์ถึงดนตรี ให้ความรู้สึกที่เรียบเนียนไม่สดหรือไม่อุดอู้เกินไป

เมื่อมีดีก็มีข้อเสีย

สำหรับข้อเสียของ Fiio X5II ที่เห็นเด่นๆเลยก็คือเรื่องของ "ไฟล์" โดยเมื่อเล่นกับเพลงที่บีบอัดมาไม่ดีเช่น MP3 128kbps นั้นรู้สึกได้ทันทีเลยว่า Fiio X5II นั้นออกอาการ "ฟ้อง" เรียกว่าขี้ฟ้องมากๆ

ในเพลงบางเพลงนั้นออกอาการให้ Bass ที่มากเกินไปสักเล็กน้อย แม้จะไม่ได้ให้เบสที่เรียกว่าบวมแต่ว่าก็ทำให้อารมณ์ของเพลงเปลี่ยนไปพอสมควร

ในเรื่องความร้อนสะสมนั้นก็ยังเป็นจุดที่คล้ายกับเพลเยอร์หลายๆรุ่นของ Fiio เมื่อใช้งานติดต่อกันสัก 20-30 นาทีขึ้นไปก็เริ่มรู้สึกอุ่นๆที่ด้านหลังเครื่อง รวมไปถึงหน่วยความจำภายในที่เช่นเคย "ไม่แถม-*-" ตรงนี้เหมือนกันเช่นเดียวกับ Fiio รุ่นอื่นๆซึ่งแม้จะให้ Slot มาถึงสองช่องแต่ก็ไม่ได้แถมหน่วยความจำภายนอกหรือภายในแต่อย่างใด ซึ่งต้องซื้อเมมโมรี่เพิ่มอีกต่างหาก

สรุป

ก็จบลงไปแล้วนะครับสำหรับการ Review การใช้งาน Fiio X5II ซึ่งทางผมก็รีวิวแบบคร่าวๆเจาะไปที่เรื่องเสียงเป็นหลักนะครับ ก็เป็นความรู้สึกส่วนตัวของผู้รีวิวนะครับก็โปรดใช้วิจารณญาณในการชมเนื่องจากบางอย่างก็มาจากความรู้สึกของผู้รีวิว ท่านที่ได้มาลองฟังด้วยตัวเองก็อาจจะมีความเห็นที่ต่างกันนะครับ

ในครั้งหน้าทางผมก็จะมารีวิวในส่วนของการใช้งาน Line out รวมไปถึง Digital Out ของ Fiio X5II ให้ชมกันนะครับ วันนี้ก็ขอลาไปก่อนนะครับ ขอขอบพระคุณที่ติดตามครับ:)


    


       Fiio X5 2nd Gen
      ราคา 12,900 บาท
 สั่งซื้อได้ตามลิ้งด้านล่าง

     http://goo.gl/5o3pfZ


Line: @toppikhifi

ร้าน TOPPIKHIFI มีสองสาขานะครับ

1. สาขาเดอะมอลล์บางกะปิ ชั้น 4 ทางไปสวนน้ำ โทร 090-015-1634
เปิดทุกวัน 10.30-21.00น. ไม่มีวันหยุด


แผนที่ร้าน TOPPIKHIFI สาขาเดอะมอลล์บางกะปิ ชั้น 4



2.สาขารามคำแหง 160 (แยกมิสทีน) โทร 02-927-5757
เปิดจันทร์ - ศุกร์ เวลา 9.00-18.00 น.



มาทางรามคำแหงกลับรถแยกมิสทีนอยู่ติดถนนรามคำแหง ซ้ายมือครับ (ฝั่งเดียวกับมิสทีน) 
ก่อนถึงสยามการประมูล (SIA) มีป้ายสีดำๆแบบนี้เลยครับ




ติดต่อสั่งซื้อได้ที่


ชั้น 4 The Mall บางกะปิ Citywalk (ทางไปสวนน้ำ)

Email:       info@toppikhifi.com
                 toppikhifi@hotmail.com

Tel:  090-015-1634 (Dtac)
        089-222-4832 (AIS)
        








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Adbox