**คลิกที่รูปเพื่อเข้าสู่เว็บร้าน Facebook Fanpage ,Tweeter และหน้าหลักของ Blog**
สำหรับในวันนี้ทางเราก็ได้นำ Fiio X5II หรือ Fiio X5 2nd gen ที่ได้ออกมาแทนรุ่น X5 ที่ได้เขย่าวงการกันไปเมื่อปีกลายจนพลิกวงการ Portable Audio Player จนเป็นที่เลื่องลือกัน โดยในรุ่นนี้ได้รับการปรับปรุงส่วนต่างๆ จะเป็นอย่างไรวันนี้ TOPPIKHIFI ของเราขอพาทุกท่านไปชมกันนะครับ
เริ่มกันที่ Package กันก่อนนะครับ ก็ตามสไตล์ Fiio นะครับเป็นโทนดำแดง
1.ซิลิโคนเคสสำหรับใส่ตัว X5II
2.กันรอยหน้าจอสองแผ่น (ที่ตัวเครื่องติดมาจากโรงงานแล้วอีก 1 รวมเป็น 3)
3.Sticker สำหรับตกแต่งและป้องกันตัวเครื่องสามชุด (ลายไม้,ลายธงอเมริกาและลายคาบอนไฟเบอร์)
4.Coaxial Cable สำหรับต่อ Line Out
5.USB Cable
6.คู่มือและเอกสารรับประกัน
มาดูที่ตัวเครื่องกันบ้างนะครับ
สำหรับหน้าตาก็ต่างจากรุ่นเดิมพอสมควร บางคนก็บอกดูเนียนตาขึ้น บางคนก็บอกรุ่นแรกดูโหดกว่าอันนี้ก็นานาจิตตังนะครับ แต่ส่วนตัวผมว่ามันก็เรียบง่ายและใช้งานสะดวกดีครับ น้ำหนักก็เบากว่ารุ่นเดิมอย่างเห็นได้ชัดเจนเลย
มาดูที่ตัวเครื่องกันบ้างนะครับ
สำหรับหน้าตาก็ต่างจากรุ่นเดิมพอสมควร บางคนก็บอกดูเนียนตาขึ้น บางคนก็บอกรุ่นแรกดูโหดกว่าอันนี้ก็นานาจิตตังนะครับ แต่ส่วนตัวผมว่ามันก็เรียบง่ายและใช้งานสะดวกดีครับ น้ำหนักก็เบากว่ารุ่นเดิมอย่างเห็นได้ชัดเจนเลย
ด้านหลัง
มาถึงในส่วนของคำถามที่หลายๆคนน่าต้องการทราบเกี่ยวกับ Fiio X5II นี้นะครับว่า
"มันต่างกับรุ่นแรกยังไงล่ะ?"
"มันต่างกับรุ่นแรกยังไงล่ะ?"
น้ำหนักและขนาด - สำหรับรุ่นที่สองนี้ได้รับการปรับแต่งและเปลี่ยนดีไซน์หลายๆจุดทำให้มีน้ำหนักที่เบาและขนาดที่เล็กและบางกว่ารุ่นแรกครับ โดยขนาดเล็กลงที่ 12% ส่วนน้ำหนักเบากว่าเดิมที่ 15% ครับ (อ้างอิงจาก Fiio)
บ้าพลังกว่าเดิม - ทาง Fiio ได้เคลมไว้ว่าเจ้า Fiio X5 2nd Gen ตัวนี้ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพการให้พลังงานมากกว่ารุ่นแรกถึง 40% จากไฟ 14V ของ Power Supply
ชิ้นส่วนและวงจรภายในระดับอ๋องตัวใหม่สุดล่า - ด้วยการจับเอาชิปเสียงต่างๆเน้นที่มีประสิทธิภาพสูงมาใส่ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ DAC Decoding, Current Amplification, Voltage Amplification และอื่นๆ โดยชิปเสียงส่วนใหญ่ใช้จากบริษัท TI หรือ Texas Instruments ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปและวงจรไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ผู้คร่ำหวอดและมีประสบการณ์ในการผลิตวงจรและชิปมากว่า 85 ปี
Native DSD - สำหรับตัวนี้ได้รับการยกเครื่องเพื่อให้รองรับการถอดรหัส DSD File แบบ Hardware Decoding ไม่ต้องผ่านโปรแกรมด้วยตัวมันเองเรียบร้อยเฉกเช่นเดียวกับ Fiio X3II ที่ออกมาก่อนหน้านี้ครับ
Independent Amplifier Stage - อันนี้ก็ได้รับการยกเครื่องใหม่เช่นกันครับ กับภาคขยายของเจ้า Fiio X5 II นั้นก็ได้รับการแยกออกมาต่างหากเพื่อขับที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งไปกว่าเดิม
Digital Audio แบบใหม่ - ทาง Fiio ก็ได้ภาคภูมิใจกับ Dual Crystal Oscillators เป็นอย่างมาก โดยแต่ละตัวนั้นก็ไว้ใช้แยกกันรับมือกับไฟล์แบบ 44.1kHz (44.1/88.2/176.4kHz, DSD64/128) และ 48kHz (48/96/192kHz) โดยเฉพาะเพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เปิดไวโพดดด - สำหรับเจ้า Fiio X5II ตัวนี้ก็ได้รับการปรับปรุงโดยใช้เทคโนโลยีแบบโทรศัพท์ Smartphone ที่เป็นที่นิยมมายัดไว้ในนี้ โดยเปิดจากโหมด Standby ใน 0 วินาที และกินแบตขณะอยู่ในโหมด Standby น้อยลงเพื่อการใช้งานที่ยาวนานยิ่งขึ้น
Credit: ข้อมูลอ้างอิงการเปรียบเทียบรุ่นแรกและรุ่นที่สองจาก Fiio.net
มาถึงเรื่องการใช้งานกันบ้างนะครับ
UI (User Interface) - สำหรับ Fiio X5II ก็ได้รับการปรับปรุง UI ให้ใช้งานได้สะดวกและแม่นยำมากขึ้นครับ โดยในรุ่นแรกนั้นจะเป็นแบบแนวตั้งซึ่งบางครั้งก็พางงสำหรับผู้ที่ใช้งานใหม่ๆ แต่พอรุ่นนี้ก็เปลี่ยนเป็นแบบแนวนอนซึ่งก็ทำให้สอดคล้องกับ Wheele ที่ใช้หมุนๆเพื่อควบคุมยิ่งขึ้นครับ
การจัดเรียงหน้าเมนูก็ถือว่าทำได้ดีและมีระเบียบครับ แต่ละส่วนถูกจัดให้เข้าถึงได้อย่างง่ายดายไม่ต้องไปคลำหากันให้เสียเวลา
หน้าจอ - สำหรับการใช้งานในภาวะแสงน้อยและแสงเยอะ หน้าจอขนาด 2.4นิ้วของ Fiio X5II นั้นก็สามารถทำหน้าที่ได้ดีและคมชัดมากๆครับ ไม่ว่าจะเอียงมุมไหนก็สามารถให้รายละเอียดของเนื้อหาและสีสันได้ดี ตรงจุดนี้ต้องขอบคุณหน้าจอแบบ IPS
ปุ่มและการควบคุมตัวเครื่อง - สำหรับรุ่นนี้ปุ่มจะแบนๆ แต่หลักๆที่ใช้ก็คือหมุนๆตัว Wheel เพื่อเข้าสู่เมนูนี่นั่น การทำงานตอบสนองได้ดี และการกดปุ่มแต่ละปุ่มก็ไม่มีปัญหารวนเรหรือเลยแต่อย่างใดครับ สำหรับ Fiio X5II ตัวนี้ FW (Firmware) ถือว่าทำออกมาได้นิ่งเลยทีเดียวครับ
ตัวเครื่อง/น้ำหนัก/การพกพา - สำหรับตัวเครื่อง Fiio X5II นั้นก็ได้รับการปรับปรุงให้มีน้ำหนักที่เบาและขนาดที่เล็กลง จึงทำให้การพกพานั้นสะดวกยิ่งขึ้นครับ แม้ว่าจะใส่เคสซิลิโคนก็ยังให้สัมผัสและขนาดที่เล็กอยู่ดีในการจับถือหรือใส่กระเป๋ากางเกง ดูไม่เตะตาดีครับ ด้านวัสดุที่ใช้นั้นก็ดูแข็งแรงและทนทานไปในทิศทางเดียวกับรูปลักษณ์ที่สวยงาม แต่เสียตรงที่การใช้งานนั้นมักจะมีความร้อนสะสม ซึ่งแม้ว่าจะใส่เคสซิลิโคนอยู่ก็มีความร้อนแผ่ออกมาให้รู้สึกได้ยามที่ถือไว้หรือใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงครับ
มาถึงเรื่องเสียงกันเลย
สำหรับการทดสอบในวันนี้นั้นผมก็จะจับเอา Fiio X5II มาแสดงอิทธิฤทธิ์ในการฟังเพลงล้วนๆก่อนนะครับ จะเป็นการต่อตรงกับหูฟังแต่ละรุ่นดังนี้
Audio-Technica M50x
Audio-Technica MSR7
Earsonics SM64
InEar StageDiver 2,4
ประเดิมกันกับหูฟังขนาดใหญ่ที่ ATH M50x กันก่อนเลยครับ ความรู้สึกแรกที่ได้สัมผัสนั้นจะรู้ได้ทันทีถึงจังหวะที่รุกเร้าเข้าหาผู้ฟัง โดยในเพลงที่มีดนตรีและทำนองที่สนุกสนานนั้น Fiio X5II จะให้เบสและเสียงกลางที่กระแทกและรัว มีน้ำหนักของมวลเบสที่ลึกลงไปถึง Deep Bass การลงกระเดื่องมีรายละเอียดที่ชัด ให้ความรู้สึกถึงสัมผัสที่หนังกลองได้เป็นอย่างดี
เมื่อลองจับ ATH MSR7 มาเทสกับเค้าบ้างก็ได้เจอทีเด็ดอีกจุดนึงครับ นั้นก็คือ Soundstage และ Background !!
ตัวหูฟัง ATH MSR7 นั้นแรกเริ่มเดิมทีก็ให้ Stage ที่กว้างและมีมิติที่ชัดเจนอยู่แล้ว แต่พอจับคู่กับ Fiio X5II นั้นก็ได้รับอิมเมจโฟกัสที่ง่ายต่อการจับจุดขึ้นไปอีก เสียงต่างๆลอยและมาจากทุกทาง โดยยิ่งเล่นกับเพลงที่มีรายละเอียดเสียงที่ครบครันและมีเครื่องดนตรีหลายประเภทก็ยิ่งทำให้ฟังสบายและพริ้มสุดๆ ในส่วนของ Background นั้นก็ได้รับความสงัดและสะอาดมากๆ ไร้เสียงรบกวนและเสียงส่วนเกินที่เข้ามาวุ่นวาย
เปลี่ยนมาลองหูฟังแบบ In-Ear monitor กันบ้างครับเริ่มที่ Earsonics SM64 ที่เป็นหูฟังแบบ 3 drivers
มิติการจับวางและโยนเสียงแต่ละย่านนั้นให้ความรู้สึกเรียบเนียนและมีพลังมากๆครับ ช่องไฟแต่ละเสียงนั้นดูแคบลงจากจังหวะการเปลี่ยนสลับซ้ายขวาของเสียงแต่ละจุด การจับวางตำแหน่งเครื่องดนตรีต่างๆดูชัดเจนและแยกได้หมดจด ให้เสียงที่นิ่งและไม่กัดหูหรือฟ้อง Noise ต่างๆออกมาแต่เช่นเดียวกับหูฟังขนาดใหญ่ Fiio X5II ยังให้พื้นหลังของเสียงที่นิ่งและสงัดมากๆ
สำหรับเพลงแนวหวานๆจากเสียงร้องของสาวๆเสียงใสทั้งหลายนั้นก็ให้ดุลเสียงที่ชัดเจนและคมไปถึงรายละเอียดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเสียงลมหายใจที่ลอดไรฟันออกมา โดยมีจังหวะขึ้นลงของโน๊ตเสียงที่เนียนและไม่รู้สึกว่ากระโดดหรือขาดความธรรมชาติเลยแม้แต่น้อย น้ำหนักการลงของเบสก็ยังเป็นที่น่าพอใจทุกครั้งที่ได้ฟัง เป็นเบสที่ไม่บวมหรือขาดน้ำหนักของ Deep Bass เลย
มาถึงหูฟัง InEar StageDiver กันบ้างนะครับ
ความประทับใจของการลองกับหูฟังสองตัวนี้อยู่ที่ "รายละเอียด" ไม่มีมีหลบซ่อนอยู่เลยแม้แต่น้อยเมื่อได้เทสประกบกับ Fiio X5II โดยรายละเอียดต่างๆถูกดึงออกมาหมดเส้นสายและขอบคมชัดสุดๆ มีเสียงกลางสูงที่ได้อารมณ์ถึงดนตรี ให้ความรู้สึกที่เรียบเนียนไม่สดหรือไม่อุดอู้เกินไป
เมื่อมีดีก็มีข้อเสีย
สำหรับข้อเสียของ Fiio X5II ที่เห็นเด่นๆเลยก็คือเรื่องของ "ไฟล์" โดยเมื่อเล่นกับเพลงที่บีบอัดมาไม่ดีเช่น MP3 128kbps นั้นรู้สึกได้ทันทีเลยว่า Fiio X5II นั้นออกอาการ "ฟ้อง" เรียกว่าขี้ฟ้องมากๆ
ในเพลงบางเพลงนั้นออกอาการให้ Bass ที่มากเกินไปสักเล็กน้อย แม้จะไม่ได้ให้เบสที่เรียกว่าบวมแต่ว่าก็ทำให้อารมณ์ของเพลงเปลี่ยนไปพอสมควร
ในเรื่องความร้อนสะสมนั้นก็ยังเป็นจุดที่คล้ายกับเพลเยอร์หลายๆรุ่นของ Fiio เมื่อใช้งานติดต่อกันสัก 20-30 นาทีขึ้นไปก็เริ่มรู้สึกอุ่นๆที่ด้านหลังเครื่อง รวมไปถึงหน่วยความจำภายในที่เช่นเคย "ไม่แถม-*-" ตรงนี้เหมือนกันเช่นเดียวกับ Fiio รุ่นอื่นๆซึ่งแม้จะให้ Slot มาถึงสองช่องแต่ก็ไม่ได้แถมหน่วยความจำภายนอกหรือภายในแต่อย่างใด ซึ่งต้องซื้อเมมโมรี่เพิ่มอีกต่างหาก
สรุป
ก็จบลงไปแล้วนะครับสำหรับการ Review การใช้งาน Fiio X5II ซึ่งทางผมก็รีวิวแบบคร่าวๆเจาะไปที่เรื่องเสียงเป็นหลักนะครับ ก็เป็นความรู้สึกส่วนตัวของผู้รีวิวนะครับก็โปรดใช้วิจารณญาณในการชมเนื่องจากบางอย่างก็มาจากความรู้สึกของผู้รีวิว ท่านที่ได้มาลองฟังด้วยตัวเองก็อาจจะมีความเห็นที่ต่างกันนะครับ
ในครั้งหน้าทางผมก็จะมารีวิวในส่วนของการใช้งาน Line out รวมไปถึง Digital Out ของ Fiio X5II ให้ชมกันนะครับ วันนี้ก็ขอลาไปก่อนนะครับ ขอขอบพระคุณที่ติดตามครับ:)
Fiio X5 2nd Gen
ราคา 12,900 บาท
สั่งซื้อได้ตามลิ้งด้านล่าง
http://goo.gl/5o3pfZ
Line: @toppikhifi
ร้าน TOPPIKHIFI มีสองสาขานะครับ
1. สาขาเดอะมอลล์บางกะปิ ชั้น 4 ทางไปสวนน้ำ โทร 090-015-1634
เปิดทุกวัน 10.30-21.00น. ไม่มีวันหยุด
แผนที่ร้าน TOPPIKHIFI สาขาเดอะมอลล์บางกะปิ ชั้น 4
2.สาขารามคำแหง 160 (แยกมิสทีน) โทร 02-927-5757
เปิดจันทร์ - ศุกร์ เวลา 9.00-18.00 น.
มาทางรามคำแหงกลับรถแยกมิสทีนอยู่ติดถนนรามคำแหง ซ้ายมือครับ (ฝั่งเดียวกับมิสทีน)
ก่อนถึงสยามการประมูล (SIA) มีป้ายสีดำๆแบบนี้เลยครับ
ชั้น 4 The Mall บางกะปิ Citywalk (ทางไปสวนน้ำ)
Email: info@toppikhifi.com
toppikhifi@hotmail.com
089-222-4832 (AIS)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น