Header Ads

New Coming Review

วันเสาร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

Review Fiio X3II หรือ Fiio 2nd Gen DAP แบบ Native DSD







**คลิกที่รูปเพื่อเข้าสู่เว็บร้าน Facebook Fanpage ,Tweeter และหน้าหลักของ Blog**

สวัสดีครับพบกันอีกครั้งกับ TOPPIKHIFI Reivew กันนะครับ สำหรับการรีวิวในครั้งทางเราก็นำ Player ที่เป็นที่นิยมสุดๆในตอนนี้มารีวิวให้ชมกันครับ

สำหรับ Fiio นั้นหลายๆท่านก็คงรู้จักกันดีนะครับคือเป็นแบรนด์ที่ทำสินค้าประเภทแอมป์ เพลเยอร์และ Dac ราคาเป็นมิตรแต่คุณภาพเพื่อนแท้ออกมาให้พวกเราได้ใช้งานกันครับ

สำหรับในปีที่แล้วนั้น Fiio ได้ออกรุ่น X3 ซึ่งเป็นเพลเยอร์ที่มีความสามารถรอบด้านในราคาต่ำกว่าหมื่นบาท และในปีนี้ได้ทำการออกรุ่นใหม่ที่ไฉไลและเพียบพร้อมด้วย Function ที่จะทำให้คุณตะลึงงันกันเลยทีเดียว โดยรุ่นนี้ชื่อทางการคือ Fiio X3 2nd Generation หรือที่เรียกกันสั้นๆว่า Fiio X3II นะครับ โดยบทความนี้ผมขอเรียกว่า Fiio X3II  ละกันครับ

สำหรับFiio X3II หรือ Fiio X3K ที่เรียกกันในตอนแรกนั้นก็เป็นเพลเยอร์แบบ Native DSD ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะราคาเพียงพกพันนิดๆ เนื่องจากในปัจจุบันนั้นหากจะมองหาก Player แบบ Native DSD นั้นจะต้องมีเงินปึกเพื่อที่จะไปทำการสู่ขอกันเลยทีเดียว แต่สำหรับ Fiio X3II  นั้นเพียง 6,390 บาทเท่านั้น คุณพระคุณเจ้าช่วย!!

ขอเริ่มการรีวิวกันเลยนะครับ

สำหรับ Package นั้นตัว Fiio X3II  นั้นก็มาแบบโทนเดิมครับดำแดง




อุปกรณ์นั้นก็เรียกได้ว่าจัดเต็มไม่ให้น้อยหน้าที่แปะชื่อ Fiio กันเลยครับ
1.คู่มือ
2.กันรอยหน้าจอ 3 ชิ้น(รวมที่ติดมาแล้ว) และกันรอยด้านหลังอีก 1 ชิ้น
3.Sticker ตกแต่งสามแบบ คือ เคฟล่า,ธงชาติUS และลายไม้
4.สาย mini to coax
5.USB cable
6.Silicone case สีดำ



สำหรับตัว Fiio X3II นั้นก็จะเป็นโลหะทั้งหมดครับ โดยมีปุ่ม Clickwheel อยู่ตรงกลาง ซึ่งปรับปรุงมาจากรุ่นก่อน และมีลักษณะเหมือน Fiio X1 และ Fiio X5 ครับ

Specifications

Dimensions:  97mm x 58mm x 16mm
Weight:  135g
Output:  3.5mm stereo jack
Recommended loads:  16 - 150 ohms
Power:  >200 mW to 32 ohms
Line out:  3.5mm stereo jack (shared with coaxial)
Line out level:  1.45 Vrms
Coaxial out:  3.5mm jack with adapter to coaxial RCA (shared with line out)
Supported formats:  DSD64, DSD128, APE, FLAC, WAV, WMA, ALAC, MP3, AAC, OGG
Sample rates and bit depth:  up to 192kHz and 24-bit for lossless PCM formats (FLAC, WAV, etc.)
Graphic EQ:  10 band
THD:  <0.001%
Crosstalk:  >102dB
Signal-to-noise ratio:  >114dB (A weight)
Battery life:  >11 hours (into a 32 ohm load with screen off)

Credit:loquah


ด้านหลังครับ


โดยส่วนบนนั้นก็จะมี 3.5mm Port และ Line Out นะครับ ส่วนด้านข้างนั้นก็จะเป็นปุ่ม Power/Sleep-wake และปุ่ม Volume ครับ


ด้านล่างนั้นก้จะเป็นที่อยู่ของ Micro USB Port ครับ และด้านข้างนั้นก็จะเป็นช่องสำหรับใส่ Memory Card  แบบ Micro SD ครับผม รองรับกันถึง 128GB กันไปเลยครับผม (แต่ราคาจะแพงเกินไปหน่อย แนะนำใช้แผ่นละ 32 หรือ 64 ก็ได้ครับ) 



สำหรับ User Interface นั้นก็จะเป็นแบบใหม่ที่ออกมาให้ใช้งานง่ายยิ่งขึ้นครับเหมือนกับของ Fiio X1 โดยสามารถจัดเรียงไม่ว่าจะเป็นเพลงและ Playlist ได้ตามความต้องการกันเลยทีเดียว และยังมี EQ ที่ละเอียดเหมาะแก่การปรับแต่งเสียงได้สะดวกมากยิ่งขึ้นด้วย



มาถึงจุดเด่นของ Player Fiio X3II ตัวนี้กันบ้างนะครับ

สำหรับ Fiio X3II น้ันจะมีชิปเสียงของ Wolfson รุ่น WM8740 ผสานกับภาคขยาย AD8397 ซึ่งสำหรับตัว Fiio X3II  นั้นได้รับการยกเครื่องใหม่ทั้งระบบ โดยสำหรับรุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่สามารถถอดรหัส DSD ได้โดยตัวมันเองเลยครับ ที่ความละเอียด 192kHz/24bit ที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้ครับผม



สำหรับการใช้งานนั้นก็ควบคุมผ่าน ClickWheel ที่อยู่ตรงกลางร่วมกับปุ่มทั้งสี่ปุ่ม ตรงจุดนี้ใช้ง่ายมากๆครับ มือเดียวสามารถจัดการได้ทั้งหมด

ด้าน Battery นั้น Fiio X3II  ใช้ขนาด 2,600Ah โดยสามารถใช้งานต่อเนื่องได้ประมาณ 10 ชั่วโมง+- นิดหน่อยครับแล้วแต่การใข้งานครับ

ไฟล์ที่ Support นั้นก็จะเป็นไม่ว่า Flac,WAV, AIFF, APE,WMA,ALAC,DSF,DFF รวมไปถึงไฟล์แบบ Lossy อื่นๆเช่น MP3 ต่างๆ

ทางด้าน DSD นั้นก็จะรองรับไฟล์ทั้งแบบ 64Bit และ 128Bit แบบ Native กันเลยทีเดียวครับ

สำหรับตัว Fiio X3II  นั้นก็จะมีความสามารถเป็น DAC โดยมีช่องต่อ Digital Line Out แบบ 3.5mm to Coaxial ซึ่งในกล่องนั้นก็จะมีแถมมาให้ไม่ต้องไปหาให้เสียเวลาครับผม

\\

การลงเพลงนั้นก็คือใช้วิธีการ "จับโยน" ครับ ลงไปที่ TF card แล้วเลือกเพลงกันได้เลย รวมไปถึงสามารถใช้กับ OTG Device คือใช้งานฟังเพลงจากอุปกรณ์ผ่านสาย OTG(ไม่มีแถมในกล่องนะครับ) ได้ทันที


หลังจากลองเล่นใช้งานมาหนึ่งวันเต็มๆ โดยส่วนตัวแล้ว Fiio X3II  นั้นเป็น Player ที่เหมาะแก่การใช้งานมากๆครับ โดยเริ่มจากขนาดและน้ำหนักตัวที่ถือว่าเล็กแต่กำลังเหมาะมือ และน้ำหนักที่เบาจึงทำให้พกพาสะดวกสุดๆเลยครับ ทางด้านของ User Interface นั้นก็สามารถควบคุม Fiio X3II ผ่านทาง Clickwheel ได้เป็นอย่างดีครับ แม้ว่าในบางครั้งอาจจะมีหมุนเลยบ้าง ไม่ถึงบ้างแต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคแก่การใช้งานแต่อย่างใดครับ


เริ่มการทดสอบ

หลังจากที่ผมได้ลองกับหูฟังไม่ว่าจะขับง่ายหรือขับยากผลก็ได้ออกมาตามนี้นะครับ



เริ่มแรกผมลองกับ Yuin PK2 เพื่อทดสอบประกายเสียงและ Soundstage ของ Fiio X3II โดยจับคู่กับ Yuin PK2 ที่เป็นหูฟังที่ให้เสียงกว้างและแหลมเป็นประกายสดใส ผลออกมาตามคาดครับ โดย Fiio X3II  นั้นถือว่าเป็น Player ที่ให้ Soundstage ที่กว้างมากๆ โดยจะขยายเวทีเสียงให้ดูโอบล้อมและเป็นมิติมากกว่าแต่เดิมอย่างเห็นได้ชัดเลยครับ ได้ความลึกตื้นหนาบางที่ละเอียดมากยิ่งขึ้น เสียงย่านต่างๆดูสดใสเป็นประกาย เสียงร้องออกแนวหวานๆ การต่อสู้กับเสียง Hiss ซึ่งถือเป็นศัตรูตัวฉกาจของหูฟังที่ไวต่อแรงขับนั้น Fiio X3II  สามารถต่อกรได้อย่างดีเยี่ยมเลยทีเดียว โดยเสียง Hiss นั้นมีแต่น้อยมากๆ

เขยิบขึ้นมาลองเสียบคู่กับ Audio-Technica m50x หูฟัง Fullsize ขวัญใจมหาชนครับ ด้านแรงขับไม่มีFiio X3II  นั้นสามารถให้ความรู้สึกว่าเสียงต่างๆนั้นลอยออกไปจากหัวได้พอสมควร มิติต่างๆ อิมเมจโฟกัสมีความคมชัดมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการไล่เรียงเสียงจากต่ำไปสูงนั้นแม้ว่าจะไม่เรียบเนียนจนถึงขนาดที่เรียกได้ว่า Smooth แต่ว่าก็มีการจัดวางระเบียบที่ดี ไม่โฉ่งฉ่าง เสียงนักร้องเด่นชัด
ปัญหาสามารถดันเสียงขึ้นได้โดยไม่เกิด Distortion แต่อย่างใด แต่ที่สัมผัสได้จากการทดสอบนั้นคือเบสที่ได้จะคมและมีรายละเอียดที่ดีขึ้นครับ (เปรียบเทียบกับมือถือนะครับ) โดย


ต่อกันกับหูฟังแบบ In-Ear กันบ้างครับ โดยผมหยิบ InEar StageDiver 2 กับ InEar StageDiver 4 มาจับคู่ลองเปรียบเทียบหูฟังหลาย Driver กันบ้าง โดยเริ่มจากจับคู่ Fiio X3II  กับ InEar StageDiver 2 กันก่อนครับ การแยกรายละเอียดเสียงแต่ละย่านนั้นเป็นไปอย่างยอดเยี่ยม รายละเอียดต่างๆถูกส่งออกมาอย่างชัดเจนไม่ต้องเพ่งกันให้ยาก จังหวะการขึ้นลงของเสียงแต่ละย่านนั้นมีการไล่เรียงนิ่ง ที่จะเห็นได้ชัดนั้นก็จะเป็นเรื่องของการให้เสียงกลางที่เด่นชัดขึ้น โดยเสียงร้องจะเขยิบออกมาข้างหน้าเล็กน้อย รวมไปถึงเบสที่ให้อารมณ์ที่หนักแน่นแต่ไม่ทิ้งตัวนานจนเกินไป

ต่อกันที่ InEar StageDiver 4 หูฟัง 4 ไดร์เวอร์ Fiio X3II  นั้นก็สามารถจัดการเรื่องแรงขับได้อย่างสบาย แต่ที่น่าประทับใจคือการให้ Soundstage ที่กว้างจริงๆ โดยส่วนตัวแล้วผมประทับใจกับจุดนี้มากๆ เนื่องจาก Soundstage ของ Fiio X3II นั้นมันไม่ได้กว้างอย่างเดียวแต่มันมาพร้อมกับมิติของเวทีเสียงที่ให้ความรู้สึกเป็น 3 มิติมากๆ ทิศทางของเสียงแต่ละย่านนั้นก็เป็นไปอย่างมีระเบียบไม่พันกันวุ่นวาย โดยแต่ละย่านนั้นจะอยู่ในส่วนของมันไม่มายุ่งเกี่ยวกันนัก จังหวะการขึ้นท่อนฮุคที่จะมีการเล่นกับโน๊ตเสียงต่ำไปหาสูงนั้นก็ให้ความรู้สึกพุ่งเป็นอย่างดี ในย่านเสียงสูงนั้นก็จะเป็นเสียงที่ให้ความรู้สึกว่าสะอาดไม่มีอาการบาดหูแต่อย่างใด

ต่อกันด้วยการทดสอบการต่อพ่วงภายนอกครับ

แน่นอนครับว่าเจ้า Fiio X3II  หรือ X3 2nd gen นั้นมีความสามารถแปลงร่างเป็น Dac เพื่อต่อพ่วงกับอุปกรณ์อื่นๆภายนอกได้ครับ โดยตัวมันนั้นจะมีช่องต่อ Line Out เพื่อส่งสัญญาณเสียง Digital ออกไปข้างนอกได้ครับ ซึ่งผมก็ได้ทดสอบกับอุปกรณ์ดังนี้ครับ

Macbook Air กับ OS X โดยใช้โปรแกรม VOX
Computer Win 7 กับ Foobar

การใช้งานง่ายมากครับเพียงแต่ตั้งค่าไม่ว่าจะเป็น USB หรือ Coaxial โดยให้ตัว Fiio X3II  เป็นตัวกลางครับ สำหรับการต่อกับ Window นั้นผมใช้ผ่านทาง USB ต่อเข้ากับ Plug in WASAPI ทำ Bit Perfect เสียงที่ได้ก็น่าประทับใจมากครับผม ให้ความรู้สึกว่า Digital ไปหน่อยแต่ว่าก็มีน้ำเสียงที่ฟังสนุกดีครับผมรวมไปถึงการใช้งานคู่กับ Macbook Air ก็ให้ผลที่น่าพอใจเช่นกันครับผม โดยไม่จำเป็นต้องลง Driver หรือซอฟแวร์เพิ่มเติมใดๆทั้งสิ้น ตรงจุดนี้ Fiio X3II  นั้นถือว่าทำผลงานได้น่าชื่นชมจริงๆ

ทางด้านไฟล์แบบ DSD นั้นการทดสอบก็ถือว่าสอบผ่านครับไม่มีอาการตะกุกตะกักหรือหน่วงเวลาเลือกใช้งานเพลงเพียงแต่ไฟล์ DSD นั้นยังไม่ค่อยแพร่หลายแต่ยุ่งยากสักนิดครับ แต่หลังจากการทดสอบก็เห็นถึงความแตกต่างระหว่างไฟล์ DSD กับเพลง Lossless ทั่วๆไปชัดเจนครับ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของรายละเอียด ฟิลลิ่งและขนาด (555 มันใหญ่มาก) แต่ถ้าชื่นชอบไฟล์ DSD นั้นก็ถือว่ามองหาเพลเยอร์ได้ถูกต้องแล้วครับ คงเป็นเพราะว่า CPU หรือหน่วงประมวลผลที่อยู่ภายใน Fiio X3II นั้นเพียงพอต่อการประมวลไฟล์ DSD ได้เป็นอย่างดีครับ
สรุปครับ

เป็นที่เรียบร้อยนะครับกับการ Review Fiio X3 2nd Generation หรือที่เรียกกันสั้นๆว่า Fiio X3II  โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่า Fiio นั้นได้กลับไปทำการบ้านมาอย่างดีก่อนที่จะออกตัว Fiio X3II นี้ครับ เนื่องจากหลายๆส่วนได้รับการปรับปรุงและพัฒนากว่ารุ่นเดิมค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว หลักๆก็เป็นเรื่องการใช้งานและคุณภาพเสียง รวมไปถึงดีไซน์ที่ทำให้การใช้งานนั้นง่ายกว่ารุ่นเดิมค่อนข้างเยอะครับ

แต่เมื่อมีข้อดีก็ต้องมีข้อติเช่นกันครับ ส่วนตัวผมคิดว่า Memory นั้นเป็นสิ่งจำเป็นครับเจ้า Fiio X3II  นั้นแกะกล่องออกมานั้นมีอุปกรณ์ให้มากมายแต่ว่า"ไม่มีเมม -*- และหน่วยความจำภายในก็ดันไม่ใส่มาให้อีกตะหาก ตรงจุดนี้ผมคิดว่าควรจะปรับปรุงสักหน่อย รวมไปถึงการใช้งานนั้น Fiio X3II  มีความร้อนพอสมควรครับหลังจากเปิดไปไม่ถึง 20 นาทีก็รู้สึกอุ่นๆพอสมควรแม้ว่าจะใส่ซิลิโคนเคสไว้ก็ตาม หวังว่า FW ใหม่ๆจะช่วยเรื่องการจัดสรรพลังงานและลดความร้อนสะสมได้(แม้สักนิดก็ยังดี)

ทั้งนี้ทางเราก็หวังว่า Review Fiio X3II ของ TOPPIKHIFI ของเราจะมีประโยนช์ในการเลือกซื้อและตัดสินใจรวมไปถึงเป็นข้อมูลให้เพื่อนๆได้ชมกันนะครับ โดยรีวิวของทางเรานั้นก็อ้างอิงจากความเห็นส่วนตัวของผู้รีวิวนะครับ ยังไงก็อยากให้เพื่อนได้มาลองกันด้วยตัวเองที่ TOPPIKHIFI ที่ห้างสรรพสินค้า The Mall บางกะปิ กันนะครับ อยู่ที่ชั้น 4 ทางไปสวนน้ำ มาเยี่ยมชมกันด้วยตัวเองได้เลยคร้าบบบ วันนี้ทางเราก็ขอลาไปก่อนนะครับ ขอบพระคุณครับ^^


       
   Fiio X3 2nd Gen
  
  ราคา 6,390 บาท




Line: @toppikhifi

สาขารามคำแหง 160 (แยกมิสทีน) โทร 02-927-5757,
090-015-1634
เปิดจันทร์ - ศุกร์ เวลา 9.00-18.00 น.



มาทางรามคำแหงกลับรถแยกมิสทีนอยู่ติดถนนรามคำแหง ซ้ายมือครับ (ฝั่งเดียวกับมิสทีน) 
ก่อนถึงสยามการประมูล (SIA) มีป้ายสีดำๆแบบนี้เลยครับ

ติดต่อสั่งซื้อได้ที่:

สาขา HQ รามคำแหง160 (แยกมีสทีน)

Email:  info@toppikhifi.com
           toppikhifi@hotmail.com

Tel:  090-015-1634 
        



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Adbox